วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หลักธรรม "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล"

    
                                                               
                                                                 จิต  คือ  พุทธะ
     ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรมสายพระกรรมฐานทั้งพระภิกษุและฆราวาส ให้การยอมรับว่า  "หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  นับเป็นองค์เดียวที่มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องของจิต  จนกระทั่งได้รับสมญาวาเป็นบิดาแห่งการภาวนาจิต"
      ประจักษ์พยานแห่งสมญานามดังกล่าวจะเห็นได้จาก  คำเทศน์  คำสอน  และความสนใจของหลวงปู่อยู่ในเรื่อง  "จิต" เพียงอย่างเดียวเรื่องอื่นนอกจากนั้นหาได้อยู่ในความสนใจของหลวงปู่ไม่
     ด้วยความลึกซึ้งในเรื่องจิตจึงทำให้หลวงปู่ประกาศหลักธรรมโดยใช้คำว่า  "จิต  คือ  พุทธะ"  โดยเน้นสาระเหล่านี้  เช่น
     "พระพุทธเจ้าทั้งปวงและสัตว์โลกทั้งไม่ได้อะไรเลยนอกจากเป็นเพียงจิตหนึ่ง  นอกจากจิตหนึ่งนี้แล้ว  ไม่มีอะไรตั้งอยู่เลย"
     "จิตหนึ่ง  ซึ่งปราศจากการตั้งต้นนี้  เป็นสิ่งที่มิได้เกิดขึ้นและไม่อาจถูกทำลายได้เลย"
      "จิตหนึ่งเท่านั้นที่เป็นพระพุทธะ  ดังคำตรัสที่ว่า...ผู้ใดเห้นจิต  ผู้นั้นเห็นเรา  ผู้ใดเห็นปฏิิจฺจสมุปฺปบาท  ผู้นั้นเห็นธรรม  ผู้ใดเห็นธรรม  ผู้นั้นเห็นเรา  ตถาคต"
       ในการสอนของหลวงปู่  ท่านจะเตือนสติสานุศิษย์เสมอว่า  "อย่าส่งจิตออกนอก"  หลวงปู่ยังสอนแนวทางปฏิบัติอีว่า  "จงทำญาณให้เห็นจิต  เมื่อเห็นจิตได้ก็สามารถแยกรูป  ถอดด้วยวิชชามรรคจิต  เพื่อที่จะแยกรูปกับกายให้อยู่คนละส่วน  แล้วจะเข้าใจพฤติกรรมของจิตได้ในลำดับต่อไป
       "หลักธรรมที่แท้จริง  คือ  จิต  จิตของเราทุกคนนั่นแหละคือหลักธรรมสูงสุดในจิตใจเรา  นอกจากนั้นแล้วไม่มีหลักธรรมใดๆ  เลย  จิตนี้แหละ  คือ  หลักธรรมซึ่งนอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่ใช่จิต  แต่จิตนั้นโดยตัวมันเองก้ไม่ใช่จิต 
        ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น  เมื่อนั้นเราอาจกล่าวได้ว่าคลองแห่งคำพูดได้ถูกตัดทอนไปแล้ว  พิษของจิตก็ได้ถูกถอนขึ้นจนหมดสิ้นจิตในจิต  ก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์  ซึ่งมีอยู่ประจำแล้วทุกคน"
        ด้วยเหตุนี้การสอนของหลวงปู่จึงไม่เน้นที่การพูด  การคิดหรือการเทศนาสั่งสอน  แต่ท่านจะเน้นที่การภาวนา  และให้ดูลงที่จิตใจของตนเองอย่าไปดูสิ่งอื่น  เช่นอย่าไปสนใจดูสวรรค์  ดูนรก  หรือสิ่งอื่นใดแต่ให้ดูที่จิตของตนเอง  ให้ดูไปภายในตนเอง "อย่าส่งจิตออกนอก" จึงเป็นคำที่หลวงปู่เตือนลูกศิษย์อยู่เสมอ

หลักธรรมของหลวงปู่ดูลย์  อตุโล
           
จิตคิด   จิตเกิด                      จิตไม่คิด  จิตไม่เกิด
จิตคิด   จิตถูกทำลาย            จิตไม่คิด  จิตไม่ถูกทำลาย
จิตปรุงแต่ง  จิตถูกทำลาย     จิตไม่ปรุงแต่ง  จิตไม่ถูกทำลาย
จิคแสวงหา  จิตถูกทำลาย     จิตไม่แสวงหา  จิตไม่ถูกทำลาย
จิตปรารถนา  จิตถูกทำลาย    จิตไม่มีความกำหนัด  จิตไม่ถูกทำลาย 

ทิ้งหมด  รู้หมด                         ทิ้งหมด   ได้หมด
ไม่ทิ้งเลย  ไม่รู้เลย                   ไม่ทิ้งเลย  ไม่ได้เลย
ทรงจิตเข้ามรรคจิต                   แล้วจิตพิจารณาจิต
รู้ธรรมในจิต                               แล้วจิตถนอมมรรคจิต
จงทำให้ชำนิชำนาญ               
จิตอบรมจิต  รู้ธรรมภายในจิต      แล้วอบรมธรรมในธรรมภายในจิต
ผู้รู้ไม่คิด  ผู้คิดยังไม่รู้                  รู้แล้วไม่ต้องคิดก็เกิดปัญญา
เอาธรรมมาอบรมธรรม                 รู้ธรรมในธรรม
เอาธรรมชาติมาปฏิบัติธรรมชาติ  ให้รู้ธรรมชาติในธรรมชาติ
เอาธาตุมาปฏิบัติธาตุ                   ให้รู้ธาตุในธาตุ
เอาธรรมอบรมในธรรม                  เอาจิตอบรมจิต ให้รู้ธรรมกายภายในจิต  รู้แล้วละวาง  ปล่อยทิ้ง  และไม่อาลัย  
และไม่ยึดมั่นในธรรมต่างๆ
ธรรมที่เกิดขึ้นภายในจิต                ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
บาปบุญเปรียบเหมือนมายา          เกิดขึ้นแล้วดับ  ปล่อยทิ้งทั้งสอง
มีแต่ผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน
สิ้นแห่งความรู้                               หุบปากเงียบ  อิ่มในธรรม
ธรรมเติมธรรม                                ไม่มีธรรมนั่นคือธรรม


แหล่งอ้างอิง

        อรรถภูมิ  บุณยเกียรติ.คู่มือนักสะสม.นนทบุรี : พรพิชาการพิมพ์,2556

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หลักธรรมหลวงปู่

พระกริ่ง พระชัยวัติน์ ไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศ

       พระไพรีพินาศ  เป็นพระพุทธรูปที่มีพระนามอันเป็นมงคล  ในพระพุทธศักราช  ๒๔๙๕ - ๒๔๙๖  วัดบวรนิเวศ
         
         ประวัติโดยย่อ  เล่ากันว่ามีผู้นำพระพุทธรูปองค์นึงมาถวาย  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรฯ  เมื่อ  พ.ศ. ๒๓๙๑  หลังจากนั้นศัตรู  หรือ  ไพรี  ของพระพระองค์คือหม่อมเจ้าไกรสร  ซึ่งเป็นคู่อริของพระองค์มานานตั้งแต่สมัยรัชการที่  ๒  ได้ต้องถูกคดีพระราชอาญาให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์  ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ  จึงพระราชทานนามพระพุทธองค์นี้ว่า  "พระไพรีพินาศ"  ปัจจุบันพระไพรีพินาศองค์นี้ก็ได้ประดิษฐาน  ณ  วัดบวรนิเวศวิหาร  กรุงเทพมหานคร
       สมเด็จพระวิชรญาณวงศ์  สมเด็จพรสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกมีพระชนมายุครบ  80  พรรษา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงบำเพ็ญกุศลฉลองพระชนมายุถวายพรราชกุศลได้มีการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมา  ทีฆายุมหามงคล  จัดสร้างพระบูชาและพระเครื่อง  "พระไพรีพินาศ"  ต่างๆ  มากมาย  เพื่อจะเป็นเครื่องเตือนสติให้บุคลพึงกำจัดกิเลส  ความหลง  อันเป็นไพรีภายในใจตนเอง  ซึ่งการเอาชนะใจตน  เองได้นั้นเป็นการประเสริฐยิ่งกว่าการเอาชนะผู้อื่นใดๆ  ทั้งสิ้น





แหล่งอ้างอิง

        ฮ. ฮาเล่ย์.สื่อกลางบ่าวพระเครื่อง.กทม : อรรถสาส์น,2556